5 วิธีใช้ชีวิตของผู้ป่วย “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ดี

02/12/2025
  • images
  • images
02/Dec/2025 05:14 AM

5 วิธีใช้ชีวิตของผู้ป่วย “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ดี

5 ข้อของผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เรียนรู้การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ท่าที่ควรเลี่ยง และวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้หายเร็วขึ้นโดยไม่กลับมาเป็นซ้ำ

สำหรับโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มักเป็นสาเหตุแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เมื่อมีอาการปวดหลังเรื้อรัง อาการนี้เกิดจากการที่แกนกลางลำตัวถูกใช้งานหนักสะสม ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ แตก หรือเคลื่อนที่ไปกดทับเส้นประสาท จนเกิดอาการปวดร้าวลงก้น ขา หรือเท้า บางรายอาจมีอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่อาการเหล่านี้สามารถดีขึ้นได้ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดและช่วยให้หมอนรองกระดูกฟื้นตัวเร็วขึ้น บทความนี้จะขอแนะนำ 5 วิธีง่าย ๆ ที่ผู้ป่วยสามารถทำได้เอง ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง


หมอนรองกระดูก ใช้ชีวิตยังไงดี


เป็นโรคหมอนรองกระดูก ลดปวดแบบไหนดี ใช้ชีวิตได้ไม่ลำบาก

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมักมีอาการร้าวลงขา ทำให้ยืน เดิน หรือขยับตัวได้ลำบาก นอกจากการพักผ่อนและทานยาแล้ว การปรับเปลี่ยนท่าทางและพฤติกรรมให้ถูกต้อง ก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการลดแรงกดทับของหมอนรองกระดูก และทำให้การรักษาเห็นผลเร็วขึ้น นี่คือ 5 วิธีที่ช่วยลดอาการปวดและเลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำ


วิธีที่ 1: จัดท่านอนที่ถูกต้อง เพื่อลดแรงกดทับ

ท่านอนตะแคงโดยมีหมอนข้างกั้นระหว่างขาเป็นท่าที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้แนวกระดูกสันหลังตรงเป็นธรรมชาติ หรือเลือกนอนหงายและชันเข่าขึ้น โดยใช้หมอนรองใต้เข่าเพื่อช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงดันที่หมอนรองกระดูก ทำให้ลดอาการปวดหลังขณะตื่นนอนได้ดี


วิธีที่ 2: ใช้หลักการยกของที่ถูกต้อง (Hip Hinge Technique)

การก้มหลังยกของหนักเป็นท่าที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้ป่วย วิธีที่ปลอดภัยคือใช้เทคนิค Hip Hinge โดยให้หลังเหยียดตรงไว้ แล้วใช้การย่อเข่าลงคล้ายท่าสควอทแทน จากนั้นค่อยใช้กำลังขาในการยันตัวขึ้น ท่านี้จะช่วยให้หลังส่วนล่างไม่ต้องรับแรงกระแทกเต็มที่ และลดความเสี่ยงบาดเจ็บซ้ำ


วิธีที่ 3: เลือกเก้าอี้และเบาะรองนั่งที่ช่วยรองรับสรีระ

การนั่งนาน ๆ มักกระตุ้นอาการปวดหลังได้ง่าย แนะนำให้เลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับส่วนโค้งของหลังส่วนล่าง และใช้หมอนรองนั่งที่ช่วยกระจายน้ำหนักสะโพก เพื่อให้หลังอยู่ในท่าที่เป็นธรรมชาติ และนั่งทำงานได้สบายขึ้นมาก


วิธีที่ 4: ออกกำลังกายเบา ๆ ที่เหมาะสม

หลายคนคิดว่าปวดหลังแล้วต้องหยุดเคลื่อนไหว แต่การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวได้ดีขึ้น แต่ควรเลือกแบบที่ปลอดภัยและปรึกษานักกายภาพบำบัด เริ่มต้นด้วยการเดินเบา ๆ หรือบริหารกล้ามเนื้อที่เน้นการเกร็งหน้าท้องและหลังส่วนล่างอย่างถูกต้อง จะช่วยให้หมอนรองกระดูกฟื้นตัวได้เร็วขึ้น


วิธีที่ 5: จัดตาราง "พักเบรกยืดเหยียด"

สำหรับคนทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน วิธีพักเบรกสั้น ๆ ทุก ๆ 30-45 นาที เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถและยืดเหยียดเบา ๆ จะช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ และลดแรงกดทับสะสมที่หมอนรองกระดูกได้เป็นอย่างดี


หมอนรองกระดูก แบบไหนอันตราย


หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แบบไหนอันตราย

แม้ภาวะนี้จะดีขึ้นได้ด้วยการพักและการปรับพฤติกรรม แต่หากมีอาการชารุนแรงต่อเนื่อง ขาอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น รวมถึงอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดทันที เพื่อวินิจฉัยและรับแนวทางการรักษาที่เหมาะสม


กายภาพบำบัดทางเลือกที่ไม่ผ่าตัดสำหรับโรคหมอนรอง

ผู้มีภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้แทบปกติ หากรู้วิธีจัดท่าทาง ลดแรงกดของหมอนรองกระดูก และเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับการประเมินอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษาให้สอดคล้องกับอาการ

ปัจจุบันมีการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ทันสมัย เช่น การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง (PMS) เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ, การจัดกระดูกแบบเฉพาะจุด (Manual Therapy) และการดึงหลังและคอ (Traction) เพื่อลดแรงกดทับ ซึ่งควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่าง Prohealth คลินิกที่มีประสบการณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดปวดไว และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายตัวอีกครั้ง



Line