หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: สัญญาณเตือนที่ควรรู้ ก่อนอาการลุกลาม

07/07/2025
  • images
  • images
07/Jul/2025 12:00 PM

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: สัญญาณเตือนที่ควรรู้ ก่อนอาการลุกลาม

อย่าปล่อยให้หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคอยรบกวนชีวิตคุณ มาทำความรู้จักสัญญาณเตือน วิธีป้องกันที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการปวดได้ก่อนที่อาการจะลุกลาม

คุณเคยมีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือมีอาการชาร้าวลงแขนขาหรือไม่? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ที่หลายคนมองข้าม โรคนี้ไม่เพียงสร้างความเจ็บปวดทรมาน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง อาการอาจลุกลามจนถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัด

การทำความเข้าใจสาเหตุ สัญญาณเตือน และแนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับภาวะนี้ได้อย่างทันท่วงทีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


 

สารบัญ


ทำความเข้าใจ "หมอนรองกระดูก"

การเข้าใจโครงสร้างและหน้าที่ของหมอนรองกระดูกจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพหลังอย่างถูกวิธี


หมอนรองกระดูกคืออะไร? หน้าที่สำคัญในกระดูกสันหลัง

หมอนรองกระดูก (Intervertebral Disc) คือส่วนประกอบสำคัญของกระดูกสันหลัง มีลักษณะคล้ายเจลลี่หรือคูชั่นที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก ให้ความยืดหยุ่น และช่วยให้กระดูกสันหลังสามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทิศทาง เช่น ก้ม เงย หรือบิดตัว หมอนรองกระดูกเปรียบเสมือนโช้คอัพธรรมชาติของร่างกาย ที่ช่วยปกป้องกระดูกสันหลังและเส้นประสาทที่อยู่ภายในให้ปลอดภัย


หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดขึ้นได้อย่างไร? กลไกการเกิดอาการ

ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะจากการเสื่อมสภาพตามวัย การได้รับบาดเจ็บ หรือการใช้งานที่ผิดท่า ทำให้ส่วนของเจลลี่ด้านในดันปลิ้นออกมานอกวงแหวนที่หุ้มอยู่ และไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลังที่อยู่ใกล้เคียง การกดทับนี้เองที่เป็นสาเหตุของอาการปวด ชา หรืออ่อนแรง ซึ่งมักจะปวดร้าวไปตามแนวของเส้นประสาทที่ถูกกดทับ เช่น ปวดร้าวลงแขนหรือขา


สัญญาณเตือนสำคัญของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ที่คุณต้องสังเกต

การสังเกตสัญญาณเตือนเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วขึ้น หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว


ปวดหลังและปวดคอร้าวลงแขน/ขา: อาการปวดที่แตกต่างจากปกติ

อาการปวดหลังหรือปวดคอที่เกิดจาก หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มักมีความรุนแรงและมีลักษณะเฉพาะ คืออาการปวดจะร้าวลงไปตามแนวของเส้นประสาทที่ถูกกดทับ เช่น หากหมอนรองกระดูกส่วนเอวทับเส้นประสาท อาการปวดจะร้าวลงสะโพก ต้นขา น่อง ไปจนถึงเท้า หรือหากเกิดที่คอ อาการปวดจะร้าวลงมาที่บ่า แขน และมือ อาการปวดเหล่านี้มักแตกต่างจากอาการปวดเมื่อยทั่วไป


อาการชา อ่อนแรง และความรู้สึกผิดปกติ: สัญญาณเตือนจากเส้นประสาท

นอกจากการปวดแล้ว ผู้ที่มีอาการนี้อาจมีอาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม หรือรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตบริเวณที่เส้นประสาทถูกกดทับ ในบางรายอาจมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อร่วมด้วย ทำให้ยกแขนไม่ขึ้น กำมือไม่แน่น หรือเดินลำบาก อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเส้นประสาทกำลังถูกรบกวน


อาการปวดแย่ลงเมื่อไอ จาม หรือเบ่ง: ข้อสังเกตเฉพาะของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

หนึ่งในลักษณะเด่นของอาการ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คืออาการปวดจะแย่ลงเมื่อมีการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น เวลาไอ จาม เบ่ง หรือยกของหนัก ซึ่งเป็นเพราะการเพิ่มแรงดันในช่องท้องจะไปดันให้หมอนรองกระดูกที่ปลิ้นออกมาเคลื่อนที่และกดทับเส้นประสาทมากขึ้น


ใครมีความเสี่ยง "หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท" มากที่สุด?

แม้ภาวะนี้จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ก็มีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป เช่น


พฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวัน

- ผู้ที่ยกของหนักไม่ถูกวิธีเป็นประจำ
การยกของหนักโดยใช้กล้ามเนื้อหลังแทนการใช้กล้ามเนื้อขาและหน้าท้อง ทำให้กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกรับน้ำหนักมากเกินไปและเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
- ผู้ที่นั่งทำงานหรือยืนเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ
การอยู่ในท่าเดิมนานๆ ทำให้หมอนรองกระดูกถูกกดทับอย่างต่อเนื่อง และการไหลเวียนโลหิตบริเวณนั้นไม่ดี ส่งผลให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ผู้ที่ก้มๆ เงยๆ บ่อยครั้ง
การเคลื่อนไหวที่ต้องก้มและเงยบ่อยๆ เช่น พนักงานทำความสะอาดหรือช่างซ่อมต่างๆ ทำให้หมอนรองกระดูกถูกใช้งานอย่างหนักและมีโอกาสฉีกขาดหรือปลิ้นได้
- นักกีฬาบางประเภท
กีฬาที่ต้องมีการบิดตัว โค้งงอ หรือกระแทกอย่างรุนแรง เช่น ยกน้ำหนัก กอล์ฟ หรือยิมนาสติก อาจทำให้หมอนรองกระดูกได้รับบาดเจ็บเรื้อรัง
- ผู้ที่ขาดการออกกำลังกายหรือมีกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องไม่แข็งแรง
กล้ามเนื้อที่อ่อนแอไม่สามารถพยุงกระดูกสันหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หมอนรองกระดูกต้องรับภาระมากขึ้น


ปัจจัยอื่นๆ

นอกเหนือจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ได้แก่

- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นลดลง และมีแนวโน้มที่จะฉีกขาดหรือปลิ้นได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางคนขึ้นไป - น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วน น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกดต่อกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น - พันธุกรรม บางรายอาจมีโครงสร้างหมอนรองกระดูกที่อ่อนแอหรือเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ - การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตไปยังหมอนรองกระดูกลดลง ทำให้หมอนรองกระดูกขาดสารอาหารและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ - เคยได้รับอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลัง การบาดเจ็บโดยตรงต่อกระดูกสันหลัง ไม่ว่าจะเป็นการหกล้ม รถชน หรือการกระแทกอย่างรุนแรง สามารถทำให้หมอนรองกระดูกเสียหายได้ทันทีหรือเร่งการเสื่อมสภาพในระยะยาว


เมื่อพบสัญญาณเตือน: ควรทำอย่างไร และทางเลือกในการรักษา

หากคุณมีอาการที่เข้าข่าย หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่ควรรอช้า การดูแลตัวเองเบื้องต้นและการปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ


การพักผ่อนและการดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการ

- พักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงหรือทำให้กระดูกสันหลังกระเทือน หากต้องนั่งหรือยืน ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการนอนบนเตียงนานเกินไป เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง

- ประคบเย็นหรือร้อน
ประคบเย็น: ใน 24–48 ชั่วโมงแรกที่มีอาการปวดเฉียบพลัน ใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้าขนหนูประคบบริเวณที่ปวด ครั้งละ 15–20 นาที วันละหลายครั้ง ช่วยลดอักเสบและบวม ประคบร้อน: หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลัง 48 ชั่วโมง ใช้แผ่นประคบร้อนหรือถุงน้ำร้อนครั้งละ 15–20 นาที เพื่อคลายกล้ามเนื้อและลดอาการเกร็ง

- ปรับท่าทางให้เหมาะสม
นั่ง ยืน เดิน และนอนอย่างถูกท่า หลีกเลี่ยงการยกของหนักผิดวิธีหรือการบิดตัวอย่างรวดเร็ว

- ใช้ยาแก้ปวดพื้นฐาน
สามารถใช้พาราเซตามอล หรือยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน โดยควรอ่านฉลากและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด


เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

แม้อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในระยะแรกอาจดีขึ้นได้เองจากการดูแลเบื้องต้น แต่หากมีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที

- ปวดรุนแรงไม่หาย อาการปวดรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน หรือไม่ดีขึ้นแม้พักผ่อนหรือใช้ยาแก้ปวดพื้นฐาน
- ชาหรืออ่อนแรงมากขึ้น รู้สึกชาหรืออ่อนแรงบริเวณแขน ขา หรือส่วนอื่น ๆ มากขึ้นจนกระทบการเคลื่อนไหว
- มีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ปัสสาวะหรืออุจจาระลำบาก กลั้นไม่ได้ หรือไม่รู้ตัว เป็นสัญญาณของภาวะฉุกเฉินที่เรียกว่า กลุ่มอาการหางม้า (Cauda Equina Syndrome)
- สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ เช่น เดินเซ ทรงตัวลำบาก หรือยกขาไม่ขึ้น
- มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ น้ำหนักลดผิดปกติ หรือปวดมากขึ้นตอนกลางคืน


แนวทางการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

การรักษามักเริ่มจากวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด หากอาการไม่ดีขึ้นจึงพิจารณาทางเลือกอื่นที่เหมาะสมมากขึ้น

- พักผ่อนและปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนาน งดกิจกรรมที่กดทับกระดูกสันหลัง เช่น ยกของหนัก ก้ม หรือบิดตัวแรง ๆ ควรนอนบนที่นอนที่พยุงสรีระได้ดี และใช้หมอนที่ไม่สูงเกินไป เพื่อช่วยลดแรงกดบนเส้นประสาท - พักผ่อนและปรับพฤติกรรม เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ หรือยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการปวดและบวม - กายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดจะประเมินการเคลื่อนไหว ออกแบบท่าบริหารเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมความแข็งแรงและยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ช่วยลดแรงกดทับเส้นประสาทได้อย่างปลอดภัย - ฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะจุด ลดการอักเสบเฉพาะบริเวณที่เส้นประสาทถูกกด ช่วยบรรเทาอาการได้ในระยะสั้น - ผ่าตัด ใช้ในกรณีที่อาการรุนแรง เช่น เดินไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก หรือมีภาวะฉุกเฉิน เช่น ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้


ที่ Prohealth เรามีโปรแกรมดูแลแบบ 5 ขั้นตอน ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงและกลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง เหมาะสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือกล้ามเนื้ออักเสบต่าง ๆ

1. ตรวจและสอบถามอาการ
เริ่มจากการพูดคุยและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของอาการที่คุณกำลังเจอ
2. จัดกระดูกและปรับโครงสร้างร่างกาย
โดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ไขจุดที่ผิดปกติและช่วยให้ร่างกายกลับมาสมดุล
3. นวดคลายกล้ามเนื้อโดยแพทย์แผนไทย
ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
4. ใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ (EMS)
เพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรง และช่วยให้การรักษาเห็นผลไวขึ้น
5. แนะนำท่าบริหารง่าย ๆ ให้ทำเองที่บ้าน
เพื่อช่วยให้ผลการรักษายั่งยืน และลดโอกาสที่อาการจะกลับมาเป็นอีก


นอกจากขั้นตอนการดูแลแบบครบวงจรแล้ว Prohealth ยังมีเครื่องมือพิเศษที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เช่น

Shockwave Therapy – คลื่นกระแทกพลังงานสูง ช่วยรักษาอาการกล้ามเนื้อหรือเอ็นอักเสบเรื้อรัง


หมอนรองกระดูก

PMS (Passive Movement System) – เครื่องช่วยขยับข้อต่อ ลดอาการตึงและคลายการกดทับเส้นประสาท


หมอนรองกระดูก

EMS (Electrical Muscle Stimulation) – เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุด เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ


หมอนรองกระดูก

Ultrasound Therapy – คลื่นเสียงช่วยลดอาการอักเสบลึก ๆ ใต้ชั้นกล้ามเนื้อ


หมอนรองกระดูก

Mechanical Traction – เครื่องดึงหลัง ช่วยลดแรงกดทับบริเวณหมอนรองกระดูก


หมอนรองกระดูก

โปรแกรมกายภาพบำบัดที่ Prohealth Chiropractic


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ "หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท"


หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดขึ้นที่ส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง?

อาการสามารถเกิดได้ทั้งบริเวณคอ (กระดูกสันหลังส่วนคอ) หรือหลังส่วนล่าง ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดการเคลื่อนไหวและรับน้ำหนักมากที่สุด


หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สามารถหายเองได้หรือไม่?

ในบางกรณีอาการสามารถดีขึ้นเองได้จากการพักผ่อนและดูแลตนเองอย่างเหมาะสม แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด


ถ้ามีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ควรงดกิจกรรมอะไรบ้าง?

ควรงดการยกของหนัก งดออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง และหลีกเลี่ยงการนั่งนานหรือก้มหลังบ่อย ๆ