ย้อนสาเหตุ ก่อนรักษาออฟฟิศซินโดรม โรคที่ไม่ได้เป็นแค่เฉพาะวัยทำงาน
ย้อนสาเหตุ ก่อนรักษาออฟฟิศซินโดรม โรคที่ไม่ได้เป็นแค่เฉพาะวัยทำงาน
คนมักเข้าใจผิดว่าโรคนี้เป็นเฉพาะพนักงานออฟฟิศ แต่ความจริงเป็นได้ทุกวัย ก่อนรักษาออฟฟิศซินโดรม ต้องทำความเข้าใจสาเหตุก่อนว่ามาจากอะไร เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่แค่โรคของชาวออฟฟิศที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ แม้ชื่อจะชวนให้คิดอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้ว อาการเหล่านี้เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงผู้สูงอายุ กลุ่มอาการนี้มาจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ หรืออยู่ในท่าทางเดิมนานเกินไป มักมีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ อ่อนแรง หรือชาเฉพาะจุด หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอย่างถูกวิธี อาจเรื้อรังจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวันได้ สาเหตุของโรคนี้แตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของแต่ละวัย เราจะมาเจาะลึกต้นตอเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุและหาวิธี รักษาออฟฟิศซินโดรมได้อย่างตรงจุด

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม แต่ละช่วงวัย
มาดูกันว่าแต่ละช่วงวัย มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม
วัยเรียน
เด็กและวัยรุ่นในปัจจุบันใช้เวลาอยู่กับสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ เล่นเกม หรือดูสื่อต่าง ๆ การนั่งผิดท่า สะพายกระเป๋านักเรียนหนักเกินไป หรือก้มหน้าเล่นโทรศัพท์นาน ๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลังได้เหมือนกัน
วัยทำงาน
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่พบออฟฟิศซินโดรมได้บ่อยที่สุด ด้วยพฤติกรรมการนั่งทำงานอยู่กับที่นาน ๆ ขาดการเคลื่อนไหว การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในท่าทางที่ไม่เหมาะสม การใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดที่ไม่ได้ถูกหลักสรีรศาสตร์ รวมถึงความเครียดจากการทำงานก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปวดเมื่อยเรื้อรังได้
ผู้สูงอายุ
แม้ผู้สูงอายุจะไม่ได้ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่าวัยทำงาน แต่ก็มีโอกาสเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ โดยเฉพาะจากกิจกรรมที่ทำซ้ำ ๆ เช่น นั่งถักไหมพรม อ่านหนังสือนาน ๆ หรือทำสวนในท่าทางที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ความเสื่อมของร่างกายตามวัยก็เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้อาการปวดเมื่อยเกิดขึ้นง่ายขึ้น
ออฟฟิศซินโดรม อาการเป็นแบบไหนบ้าง
อาการของออฟฟิศซินโดรมมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงที่กระทบชีวิตประจำวัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- - ปวดตึงบริเวณคอ บ่า ไหล่ หรือหลังส่วนบน
- - ปวดร้าวลงแขนหรือมือ
- - มีอาการชาตามปลายนิ้ว
- - ปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะร่วมด้วย
- - เมื่อยล้าง่ายแม้ไม่ได้ออกแรงมาก
ออฟฟิศซินโดรม รักษายังไงดี
การรักษาออฟฟิศซินโดรมทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของอาการ
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ยืดหยุ่น และลดอาการปวดได้ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบยืดเหยียด (stretching) หรือใช้แรงต้านเบา ๆ เช่น พิลาทิส โยคะ หรือเวทเทรนนิ่ง
ปรับเปลี่ยนท่าทาง พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การจัดโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับสรีระ เลือกเก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี ตั้งจอคอมให้อยู่ในระดับสายตา และพยายามลุกเปลี่ยนท่าทุก ๆ 30-60 นาที ด้วยการลุกเดินหรือยืดเหยียดเป็นระยะ จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการปวดสะสมได้ดี
รักษาโดยการกายภาพบำบัด
เมื่ออาการไม่ดีขึ้น การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำ กายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรม เป็นอีกทางเลือก นักกายภาพบำบัดจะช่วยประเมินอาการ หาสาเหตุ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การนวดคลายกล้ามเนื้อ การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด หรือการสอนท่าออกกำลังกายที่ถูกต้อง

แนะนำสถานที่รักษาออฟฟิศซินโดรม คือ Prohealth Clinic
Prohealth Clinic คลินิกที่เข้าใจและใส่ใจในทุกอาการของออฟฟิศซินโดรม ด้วยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญของเรา พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจร เราออกแบบโปรแกรมการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคลอย่างตรงจุด โดยแต่ละเซสชันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และสำหรับผู้เข้ารับบริการครั้งแรกจะใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง เพื่อการประเมินที่ละเอียด ซึ่งบริการของเราครอบคลุมทั้ง
- - จัดกระดูก: โดยนักไคโรแพรคติก เพื่อปรับสมดุลร่างกายและลดแรงกดทับ
- - ติดเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ: โดยนักกายภาพบำบัด เพื่อลดปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- - คลายกล้ามเนื้อ: โดยแพทย์แผนไทย ช่วยผ่อนคลายและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
- - ดึงหลัง/ดึงคอ: โดยนักกายภาพบำบัด สำหรับปัญหากระดูกทับเส้นหรือปวดรุนแรง
- - สอนออกกำลังกาย: โดยนักกายภาพบำบัด เพื่อให้คุณดูแลตัวเองต่อเนื่องและป้องกันอาการกลับมาเป็นซ้ำ
หากคุณกำลังมองหาวิธี รักษาออฟฟิศซินโดรม ใกล้ฉัน ให้ Prohealth Clinic เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพและบอกลาอาการออฟฟิศซินโดรมของคุณ