ปวดบ่า ปวดไหล่ ชาลงแขน สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณไม่ได้เป็นแค่ “ออฟฟิศซินโดรม”
ปวดบ่า ปวดไหล่ ชาลงแขน สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณไม่ได้เป็นแค่ “ออฟฟิศซินโดรม”
ปวดบ่า ปวดไหล่ร้าวลงแขนและมีอาการชา อาจไม่ใช่แค่ ออฟฟิศซินโดรม! บทความนี้แพทย์จะมาช่วยแยกแยะอาการ และบอกวิธีรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
ไลฟ์สไตล์ที่พาชีวิตเราผูกติดอยู่กับโต๊ะทำงานและหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ออฟฟิศซินโดรมได้กลายเป็นอาการปวดคอ บ่า และหลังที่หลายคนคุ้นเคย แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นคืออาการปวดร้าวลงแขน ร่วมกับอาการ ชา หรืออ่อนแรง ซึ่งหลายคนมักมองข้ามไปโดยหารู้ไม่ว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะอื่นที่ร้ายแรงกว่า
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกกับกับผู้เชี่ยวชาญว่าอาการเหล่านี้เป็นแค่ออฟฟิศซินโดรมจริงหรือไม่ และแนวทางรักษาออฟฟิศซินโดรมอย่างกายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรมจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากวงจรความปวดนี้ได้จริงหรือเปล่า มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย
3 ภาวะเสี่ยง ที่มีอาการคล้าย “ออฟฟิศซินโดรม” แต่ต้องระวังมากกว่า
หากมีอาการปวดที่มาพร้อมกับการชาหรืออ่อนแรงเฉพาะจุด อาจเป็นสัญญาณของภาวะเสี่ยงที่มากกว่าออฟฟิศซินโดรม เพราะอาการเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับการกดทับของเส้นประสาทที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาออฟฟิศซินโดรมโดยด่วน ภาวะเหล่านี้มีอะไรบ้างเรามาดูกัน
ภาวะที่ 1: เส้นประสาทถูกกดทับที่คอ
พบบ่อยในผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานจนกล้ามเนื้อคอตึง เมื่อหมอนรองกระดูกคอเสื่อมหรือเคลื่อน อาจไปกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดร้าวรุนแรงจากคอและบ่าลงไปตามแขนจนถึงปลายนิ้วมือ และมักมีอาการชาหรืออ่อนแรงตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
ภาวะที่ 2: กลุ่มอาการเส้นเลือดและประสาทถูกรัดที่ทรวงอก
ภาวะนี้เกิดจากการกดทับของเส้นประสาทและหลอดเลือดบริเวณไหปลาร้า ทำให้มีอาการ ปวดลึก ๆ บริเวณบ่า ไหล่ และร้าวลงแขน อาจมีอาการแขนอ่อนแรง จับของหลุดง่าย หรือรู้สึกตึงจนชาเวลามีการเหยียดแขนหรือยกแขนสูง
ภาวะที่ 3: เส้นประสาทข้อมือถูกกดทับ
สายพิมพ์งานหรือจับเมาส์ทั้งวันอาจคุ้นกับภาวะนี้ โดยเกิดจากเส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ ทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่มือและปลายนิ้ว โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง บางครั้งปวดร้าวขึ้นแขนได้
แนวทางการรักษาอาการปวดบ่าและชาสำหรับผู้ป่วย
การรักษาออฟฟิศซินโดรมที่ตอบโจทย์ต้องเริ่มจากการวินิจฉัยที่แม่นยำ เพื่อแยกอาการระหว่างออฟฟิศซินโดรมทั่วไปกับภาวะกดทับเส้นประสาท เมื่อทราบสาเหตุแล้ว แพทย์จะช่วยแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับอาการมากขึ้น โดยมักเริ่มจาก
การปรับพฤติกรรม
ขั้นแรกที่ทุกคนสามารถทำได้คือการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงานตามหลัก Ergonomics ดังนี้
- ระดับหน้าจอ : ควรอยู่ในระดับสายตา เพื่อให้คอตรง
- ตำแหน่งคีย์บอร์ด : ควรวางให้ข้อมือตรง ไม่กระดกขึ้นลง
- การพัก : ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายหรือเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
กายภาพบำบัด
กายภาพบำบัด ออฟฟิศซินโดรมสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังหรืออาการชา การบำบัดโดยผู้เชี่ยวชาญคือทางออกที่ตรงจุด นักกายภาพบำบัดจะใช้เทคนิคและเครื่องมือพิเศษเพื่อลดการกดทับและฟื้นฟูร่างกายอย่าง
- การใช้เครื่องมือเฉพาะ : เช่น เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) เพื่อลดปวดและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลึก หรือเครื่อง Shockwave เพื่อรักษาจุดปวดเรื้อรัง
- การจัดกระดูก (Manual Therapy) : เพื่อปรับความสมดุลของข้อต่อและคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว เป็นการรักษาที่เน้นการแก้ที่ต้นเหตุของอาการปวด
"Prohealth" ช่วยคุณได้อย่างไรในการจัดการอาการ
ไม่ว่าอาการปวดบ่า ไหล่ หรือชาลงแขนของคุณจะเป็นแค่ออฟฟิศซินโดรม หรือภาวะกดทับเส้นประสาท สิ่งสำคัญคือการได้รับการตรวจประเมินโดยนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ ที่ช่วยให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง เพื่อนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่แม่นยำและตรงจุดที่สุด
ที่ Prohealth เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การปรับท่าทางการทำงาน กายภาพบำบัด ออฟฟิศซินโดรม ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้คุณกลับมาทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
จองคิวและเข้ารับการประเมินกับนักกายภาพบำบัดได้ทันทีที่ Prohealth




